วีคาร์โก รุกพัฒนา ยกระดับไอทีสู่ Version 2

ภายใต้สมรภูมิธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์เมืองไทยนับวันอุณหภูมิการแข่งขันดุเดือดขึ้นทุกปีท่ามกลางปัจจัยเร่งเร้ารอบทิศทาง ทั้งแรงกดดันจากผู้เล่นบริษัทคนไทยมากหน้าหลายตาในเวทีแข่งขันที่เปิดหน้าสู้กันไม่มีใครยอมใคร อีกทั้งต้องเบ่งกล้ามพลางทำน้ำหนักสู้กับบริษัทขนส่งข้ามชาติที่พรั่งพร้อมทั้งเงินทุนและเทคโนโลยี ที่นับวันยิ่งเพิ่มขุมพลังไล่ทุบบริษัทขนส่งไทยให้ล้มหายตายจากไปตลาดการแข่งขัน

และไหนต้องเร่งปรับตัวรับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงโลกเทคโนโลยีที่บุกประชิดให้เร่งปรับตัวขนานใหญ่ โดยเฉพาะปัจจัยเร่งเร้าจาก“Digital Disruption”(ดิจิทัล ดิสรัปชัน)ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการใช้เทคโนโลยีและโมเดลธุรกิจแบบใหม่ จนส่งผลกระทบต่อกิจการ สินค้าและบริการที่มีอยู่ในปัจจุบัน หากไม่พัฒนา-ไม่ปรับตัวย่อมไร้ซึ่ง“ศักยภาพและขีดความสามารถ”ในการแข่งขันไปต่อกรกับผู้เล่นในเวทีการแข่งขันได้

ภายใต้ยุทธจักรธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์เมืองไทยยังมีอีกหนึ่งกลุ่มบริษัทสัญชาติไทยที่ไม่ยอมหยุดนิ่งในการพัฒนาองค์กรให้ก้าวทันเทรนด์การเปลี่ยนแปลงโลกแห่งเทคโนโลยี อย่างกลุ่มบริษัทวี คาร์โก ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรชั้นแถวหน้าเมืองไทย ที่เดินหน้าพัฒนาระบบเทคโนโลยีด้านขนส่งอย่างต่อเนื่องหวัง“เสริมเขี้ยวเล็บ-เติมเต็มศักยภาพ“การขนส่งให้มีประสิทธิภาพ ยกระดับมาตรฐานการบริการทันสมัย ตอบโจทย์ธุรกิจยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ

ไม่บ่อยครั้งที่ได้มีโอกาสได้พบปะผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงขนส่งไม่รอช้าขอกระชับพื้นพลางตีวงล้อมสอบสวนเชิงข่าวจากปากผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มบริษัทวี คาร์โกอย่าง“คุณอุดม ศรีสงคราม”กรรมการผู้จัดการ กับประเด็นผลสำเร็จการพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิตอลและไซเบอร์ Version 2 ต่อยอดจาก Version 1 เป็นแรงส่งทำให้กลุ่มบริษัทวี คาร์โก สามารถบริหารจัดเส้นทางการขนส่ง (Routing)อัตโนมัติจากต้นทางไปถึงมือลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความสะดวก รวดเร็ว ลดต้นทุนขนส่ง และลดการใช้ทรัพยากรทั้งเวลาและพลังงานเชื้อเพลิง

TMS ถนนทางด่วนการสื่อสาร-บริการแบบ Paperless

คุณอุดม ศรีสงคราม ได้ฉายภาพให้เห็นว่ากลุ่มบริษัทวี คาร์โกได้เริ่มนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาให้บริการแก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่องจนนำไปสู่ความสำเร็จในโครงการพัฒนา Transport Management System หรือ TMS ใน Version แรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558  ซึ่ง TMS Version แรกถือเป็นความสำเร็จในการพัฒนาการให้บริการลูกค้าผ่าน Applications บนโทรศัพท์มือถือที่เป็น Smart Phone โดยพนักงานส่งสินค้าจะไม่ต้องใช้เอกสารการทำงานในแต่ละวัน แต่จะเป็นการรับคำสั่งรวมไปถึงการส่งมอบสินค้าไปจนถึงการปิดงานในแต่ละวันผ่าน Application บน Smart Phone 100% ทำให้ไม่มีเอกสารที่เป็นกระดาษหลงเหลืออยู่ในระบบการทำงานจากสำนักงานถึงบ้านลูกค้าที่สั่งสินค้าผ่านองค์กรที่เป็นลูกค้าของกลุ่มบริษัทวี คาร์โก

“หากจะพูดให้ชัดเจนขึ้นก็คือเราสามารถพัฒนา Application บน Smart Phone ที่หัวใจอยู่ในระบบ TMS ก็เพราะเรามีถนนทางด่วนทางการสื่อสารที่เรารู้จักกันในชื่อ 3G และ 4G ทำให้เราสามารถพัฒนารูปแบบการให้บริการแบบ Paperless ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เราไม่ได้หยุดการพัฒนาเพียงแค่นี้ เรายังพัฒนาต่อเนื่องจนมาถึงวันนี้วันที่เราพัฒนา TMS Version 2 สมบูรณ์แบบ 100% ผมพูดได้เลยว่า TMS Version 2 จะเป็นระบบที่ Smart ยิ่งขึ้น”

กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัทวี คาร์โก เล่าต่อว่าด้วยวิสัยทัศน์ที่มองไปข้างหน้าทำให้เราพัฒนา TMS Version 2 นี้เสร็จเมื่อปลาย พ.ศ. 2562 ซึ่งระบบเปิดที่พร้อมจะรับการสื่อสารสองทางกับบริษัทคู่ค้าภายนอกได้อย่างลื่นไหลไม่เกิดการสะดุด ทำให้ Applications ต่าง ๆที่วิ่งในระบบ TMS สามารถดึงและส่งข้อมูลเชื่อมต่อกับลูกค้าที่เป็นองค์กรภายนอกได้ อีกทั้งมีการพัฒนาระบบ Vehicle Route Planning หรือ VRP ซึ่งเป็นระบบที่อยู่ภายใต้ระบบใหญ่ TMS เป็นตัวด้านการบริหารจัดการเส้นทางการขนส่ง

 “VRP จะเป็นระบบที่นำข้อมูลชุดคำสั่งของลูกค้าแต่ละรายเข้าสู่ระบบ TMS เพื่อทำการวิเคราะห์จัดสรรรถบรรทุกว่าจำเป็นต้องใช้กี่คัน รวมไปถึงเสนอแนะเส้นทางการเดินรถ ว่าควรมีเส้นทางใดบ้าง รวมไปถึงจำนวนแต่ละจุดที่ต้องส่งก่อนหรือหลังตามลำดับ ภายใต้คำสั่งของลูกค้าว่าจะให้ส่งสินค้าไปยังจุดไหนในปริมาณเท่าใด โดยเฉพาะสินค้าที่จะต้องทำการจัดส่งไปยังบ้านลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคที่สั่งสินค้าจากผู้ค้าปลีกหรือ โมเดิร์นเทรด ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่กระจัดกระจายไปทั่งประเทศไทยในปริมาณที่หลากหลายในแต่ละคำสั่งซื้อ

TMS Version 2 พ่วง VRP สอดรับยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ

คุณอุดม เผยถึงการทดลองระบบ TMS Version 2 ว่าเราโชคดีที่โครงการนี้เริ่มทดลองใช้ก่อนจะเกิดวิกฤติ Covid 19 ทำให้เรามีความพร้อมให้บริการทันที่ที่รัฐบาลได้ประกาศ Lock Down ประเทศในช่วงต้นปีนี้ จนถึงวันนี้ผมยืนยันครับว่า TMS Version 2 ของเราสมบูรณ์แบบแล้ว ซึ่ง TMS Version 2 ที่พ่วงระบบ VRP นี้ทำให้เราเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

“หากเรายังใช้ระบบ Manual อยู่เราคงต้องใช้คนจำนวนมากมาวางแผนเส้นทางการเดินรถเพื่อให้บริการกับลูกค้าอย่างทั่วถึงในระยะเวลาที่เรากำหนดไม่ได้ภายใต้เงื่อนไขข้อจำกัดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนรถที่จะต้องใช้ พนักงานขับรถที่จะต้องเกิดขึ้นตามจำนวนรถ รวมไปถึงระบบการจัดวางสินค้าในรถขนส่งแต่ละคัน มันทำให้เราใช้ทรัพยากรอย่างมากมายในต้นทุนที่แพง”

กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัทวี คาร์โก ย้ำว่าแต่ TMS Version 2 นี้ ปัญหานี้หมดไปทันทีเพราะระบบจะทำการคำนวณให้ตั้งแต่การจัดเรียงสินค้าในรถแต่ละคัน การกำหนดเส้นทางให้รถแต่ละคันที่จะวิ่งส่งไปถึงบ้านลูกค้าภายใต้เงื่อนไขที่ลูกค้าผู้บริโภคคนสุดท้ายสั่งเช่นจะให้ส่งสินค้าพร้อมติดตั้งหรือไม่ ซึ่งระบบ TMS Version 2 จะกำกับพนักงานส่งสินค้าให้ทราบถึงรายละเอียดเงื่อนไข รวมไปถึงระบบการเก็บเงินปลายทาง ซึ่งรถแต่ละคันจะได้รับเส้นทางที่ชัดเจนและเป็นเส้นทางที่ลื่นไหลไปตามตำแหน่งที่จะส่งของแบบต่อเนื่อง

“ด้วยระบบการขนส่ง TMS ภายใต้การบริหาร VRP นี้ ทำให้เกิดการประหยัดทั้งจากเส้นทางที่สอดคล้องกับเนื้องานที่เหมาะสมในรถขนสินค้าแต่ละคัน ในเวลาที่พนักงานสามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยค้าใช้จ่ายจากเส้นทางการเดินรถที่สั้นและใช้เวลาที่ต่ำที่สุด และที่สำคัญคือใช้จำนวนรถที่น้อยที่สุดด้วย ทั้งหมดนี้ผู้ที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงคือองค์กรที่เป็นลูกค้าของกลุ่มบริษัทวี คาร์โก ที่จะส่งผ่านต้นทุนที่ลดลงไปถึงมือลูกค้าของแต่ละองค์กร จึงทำให้กลุ่มบริษัทวี คาร์โก ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าอนาคตที่ได้ให้ความสนใจใช้บริการของกลุ่มบริษัทวี คาร์โก ในอนาคตอันใกล้”

Smart Station ควบคุมต้นทุนหลักคือเชื้อเพลิงได้ถึง 4 %

นอกจากนี้ คุณอุดม ยังได้กล่าวถึงปั้มจ่ายน้ำมันอัจฉริยะหรือ Smart Station ด้วยว่าภายใต้ระบบ TMS Version 2 ยังมีอีกหนึ่ง Application คือ Smart Station หรือ ปั้มจ่ายน้ำมันอัจฉริยะ ที่จะช่วยให้กลุ่มบริษัทวี คาร์โก สามารถควบคุมต้นทุนหลักธุรกิจขนส่งคือน้ำมันเชื้อเพลิง โดย Smart Station เป็นระบบการคำนวณการใช้น้ำมันของรถแต่ละคันที่เชื่อมต่อกับระบบ VRP ที่คำนวณเส้นทางซึ่งจะสามารถระบุระยะทางที่เป็นกิโลเมตรของรถแต่ละคันเชื่อมต่อกับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันของรถแต่ละคัน ทำให้ระบบสามารถกำหนดความต้องการใช้น้ำมันของรถแต่ละคันในแต่ละวันได้อย่างแม่นยำ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกส่งผ่านไปที่ระบบ Smart Station เพื่อกำหนดปริมาณน้ำมันที่จะเติมให้กับรถแต่ละคันในแต่ละวัน

“ทุกวันนี้พนักงานขับรถของเราจะได้รับคำสั่งปฏิบัติงานในทุกเช้าของแต่ละวัน พนักงานก็จะนำรถไปที่ศูนย์กระจายสินค้าที่กำหนดไว้ผ่าน Smart Phone เมื่อพนักงานนำรถไปขึ้นสินค้าที่มีการจัดเรียงตามที่ระบบ VRP กำหนดเสร็จเรียบร้อย พนักงานคนนั้นก็จะทำการถ่ายภาพกลับมาที่ TMS ระบบจะส่ง QR Quote กลับไปที่ Smart Phone เพื่อให้พนักงานขับรถนำรถของเขาไปที่ Smart Station เพื่อเติมน้ำมัน โดยที่พนักงานคนนั้นจะต้องทำการ Scan ลายนิ้วมือเพื่อระบุตัวตนควบคู่ไปกับการ Scan QR Quote ที่ต้องตรงกัน ระบบจึงจะอนุมัติให้ทำการเติมน้ำมันในปริมาณที่ถูกคำนวณมาเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจึงนำรถออกปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละวัน โดยขั้นตอนการเติมน้ำมันนี้ไม่จำเป็นต้องมีพนักงานส่วนกลางที่จะคอยประเมินว่ารถแต่ละคัน ต้องใช้น้ำมันกี่ลิตร รวมไปถึงพนักงานประจำปั้มน้ำมัน ซึ่งทั้งหมดนี้้เราใช้ระบบ TMS และ Smart Station เป็นตัวควบคุมแทนคนทั้ง 100% ทำให้เราสามารถลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงได้มากถึง 4 %”

กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัทวี คาร์โก ย้ำปิดท้ายว่าระบบ VRP และ TMS ทำให้ Smart Station และส่วนอื่น ๆ ใม่ต้องใช้เอกสารที่เป็นกระดาษอีกต่อไปหรือจะพูดว่าหมดยุคการรับคำสั่งและดำเนินการภายใต้ระบบกระดาษอีกต่อไป อีกทั้งการใช้คนก็เท่าที่จำเป็น ยืนยันได้ที่ Smart Station ไม่มีพนักงานเติมน้ำมัน แต่พนักงานขับรถจะเป็นผู้รับผิดขอบการเติมน้ำมัน

“ผมพูดได้เต็มปากครับว่า TMS Version 2 และ VRP ทำให้เราเป็น Paperless Office และ Human Less Office ซึ่งสุดท้ายแล้วคนที่จะได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เราพัฒนาขึ้นมาก็คือองค์กรลูกค้าของเรา และลูกค้าขององค์กรลูกค้าเราที่จะได้รับบริการที่ดี มีประสิทธิภาพในราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้ลูกค้าเราสามารถแข่งขันกับผู้เล่นรายอื่นในตลาดได้”

ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จด้านพัฒนาองค์กร-เทคโนโลยีให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงเทรนด์เทคโนโลยีโลกด้วยบริษัทขนส่งคนไทย-วิสัยทัศน์ผู้บริหารคนไทย ช่วยยกระดับมาตรฐานการบริการขนส่งครบวงจรได้ประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว ลดต้นทุน และตอบโจทย์ธุรกิจยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ นำพาองค์ทะยานสู่ความเป็นบริษัทขนส่งครบวงจรชั้นแถวหน้า เติมเต็มศักยภาพให้แข็งแกร่งพอที่จะต่อกรกับบริษัทขนส่งข้ามชาติได้อย่างไม่เคอะเขิน

เหนือกว่านั้นองค์ความรู้จากเทคโนโลยีล้ำสมัยนี้ถูกถ่ายทอดจากผู้บริหารสูงสุดอย่าง“คุณอุดม ศรีสงคราม”กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทวี คาร์โก ที่แม้จะมีวัยวุฒิที่ผ่านร้อนผ่านหนาวจนอายุผ่านหลัก 7 แล้วก็ตาม ทว่าทักษะการใช้งานและสั่งงานผ่าน Applications บนโทรศัพท์มือถือ-แท็บเล็ตได้อย่างคล่องแคล่วและแม่นยำ ถือว่าไม่ธรรมดา…กาไก่!

ไม่แปลกที่กลุ่มบริษัทวี คาร์โก จะผ่านร้อนผ่านหนาวและเติบโตอย่างมั่นคงตลอดระยะเวลาแห่งการตะบันวงล้อธุรกิจขนส่งอยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวนานถึง 32 ปี!

:เหยี่ยวไพร